ซีซั่นนี้ใครจะเชื่อละว่า คู่แข่งที่จะขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์แชมป์ลีคกับลิเวอร์พูลที่เป็นตัวเต็งอยู่แล้ว จะเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ ปีนี้พวกเค้าเสียกองหลังตัวแกร่งอย่าง แมกไกรว์ ออกไป หลายคนคิดว่าคงยาก แต่การเข้ามาของ แบรแดน รอดเจอร์ส ทำให้ตอนนี้เลสเตอร์ซิตี้อยู่ในอันดับที่สองของตารางคะแนน ทำแต้มตามหลังลิเวอร์พูลอยู่ 8 แต้ม อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้จิ้งจอกสยามตัวนี้ขึ้นมาท้าชิงได้
เกมในบ้านแข็งแกร่ง
หากไม่อยากตกชั้น หรือ ทำพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยุโรป เกมในบ้านต้องเหนียวไว้ก่อน นี่คือแท็คติคหลักของทีมระดับกลาง จนถึงท้ายตารางที่พวกเค้าจะต้องพยายามเก็บแต้มในบ้านให้ได้มากที่สุด เปิดสถิตินับเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีคเลสเตอร์ในฐานะเจ้าบ้านพวกเค้าไม่เคยแพ้ใครเลย แถมตบบิ๊กซิกส์ไปสองด้วย ก็คือ อาร์เซนอล และ สเปอร์ส นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เลสเตอร์เก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำอย่างมากในฤดูกาลนี้
เกมรับเหนียว
ก่อนจะคิดถึงชนะต้องไม่แพ้เอาไว้ก่อน เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่เน้นเกมรับอย่างมากในซีซั่นนี้ มองดูตารางจะเห็นเลยพวกเค้าเสียประตู(นับเฉพาะเกมลีค) ไปเพียงแค่ 10 ประตูเท่านั้นเอง น้อยที่สุดของลีค พวกเค้าเก็บชัยชนะแบบไม่เสียประตู(คลีนชีท) ไปถึง 6 เกมแล้ว จากทั้งหมด 16 เกมที่เล่นกันไป นับเป็นเปอร์เซนต์เกือบครึ่งเลย จึงไม่แปลกที่ใครไปบุกเจอเลสเตอร์ชั่วโมงนี้กว่าจะยิงให้เข้าได้ก็เหนื่อยจนลิ้นห้อยกันแล้ว เกมรับพวกเค้าจัดระเบียบได้น่ากลัวมากจริงๆ
สวนกลับคมกริบ
จากเกมรับอันเหนียวแน่น มาดูอาวุธเด็ดของพวกเค้าเป็นเกมสวนกลับที่บอกเลยว่า คมกริบ เหมือนดาบที่ผ่านการฝนมาเป็นอย่างดี เจมี่ วาร์ดี้ กลับมาเป็นคนเดิมที่เคยสร้างความอันตรายต่อกองหลังทุกทีมจนขึ้นไปคว้าแชมป์ลีคมาแล้ว การเล่นบอลของพวกเค้าแต่ละครั้งไม่ต้องมากจังหวะ ไม่ต้องมากพิธี พอได้แล้วสวนเลย ทุกคนรู้หน้าที่วิ่งขึ้นเป็นระบบเป็นแผง สุดท้าย วาร์ดี้ จบจังหวะสุดท้าย ตูมเดียว ตุงตาข่ายตลอด นี่แหละจุดแข็งของเลสเตอร์ที่ทำให้ขึ้นมาท้าชิงลิเวอร์พูลได้